สารทำความสะอาดส่งผลเสียต่อเซลล์ผิวอย่างไร?
"แก้ปัญหาผิวแห้ง" ด้วยการใช้สารทำความสะอาด/ การล้างหน้าให้ถูกวิธี
ก่อนจะพูดถึงสารทำความสะอาดผิวที่ใช้ภายนอกว่าส่งผลเสียต่อผิว หรือเซลล์ผิวอย่างไร? ขออธิบายลักษณะของผิวที่อยู่นอกสุดของผิวชั้นนอก (Epidermis) ก็คือ Stratum corneum (1) ซึ่งเป็นชั้นปกป้องผิวด่านแรกที่เจอกับสิ่งแวดล้อมภายนอกก่อน เพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพและมีความรู้พื้นฐานเบื้องต้นเกี่ยวกับผิวคร่าวๆก่อนนะคะ
ผิวในชั้น Stratum corneum ประกอบไปด้วย 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ เซลล์ผิวที่ตายแล้วมีชื่อเซลล์ว่า Corneocytes และไขมันที่เชื่อมระหว่างเซลล์ผิวให้ยึดติดกันเรียกว่า Intercellular lipids เปรียบเหมือนกับลักษณะของอิฐบล็อคที่ถูกเชื่อมติดกันด้วยปูน ซึ่งทำหน้าที่เป็นเหมือนเกราะป้องกันและกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวเป็นชั้นแรกให้แก่ผิวหนังชั้นต่างๆที่อยู่ถัดลงไป
- Corneocytes มีลักษณะรูปร่างแบน ไม่มีนิวเคลียสอยู่ในเซลล์แล้ว มีคุณสมบัติในการดูดน้ำได้ดีเนื่องจากมีส่วนประกอบที่สำคัญคือ สารประเภทโปรตีนเคราตินประมาณ 70-80% และสารประเภทไขมัน (lipid) ประมาณ 20% จับตัวอยู่บริเวณขอบเซลล์
- Intercellular lipids มีสารประเภทไขมันที่เป็นองค์ประกอบหลักได้แก่ Ceramides, Cholesterol, Free fatty acids, Cholesterol esters, Cholesterol sulfate
สารลดแรงตึงผิว (Surfactant) ทำหน้าที่เป็น “สารทำความสะอาด” ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว สามารถกำจัดไขมันและสิ่งสกปรกออกจากผิวได้ (2) ในขณะเดียวกัน สารทำความสะอาดนี้ ก็สามารถกำจัดโปรตีนและไขมันที่เป็นองค์ประกอบหลักของผิว และนำไปสู่ปัญหาผิวประเภทต่างๆ ได้แก่ ผิวแห้งตึง ผิวระคายเคือง ผิวคัน เป็นต้น ได้เช่นกัน
ในแง่ของผลกระทบของ สารทำความสะอาด ต่อเซลล์ผิวชั้นนอก สารทำความสะอาดสามารถทำให้เซลล์ผิวที่เป็นสารประเภทโปรตีน เกิดการบวมน้ำอย่างมาก (hyper-hydration) เซลล์ผิวพองออกและจับตัวกันหลวมขึ้น ในช่วงเวลานี้ สารเคมีต่างๆในผลิตภัณฑ์ จะสามารถซึมลงผิวในชั้นที่ลึกลงไปได้ดีขึ้น ซึ่งหากเราแพ้สารนั้นๆ ก็จะเกิดการแพ้หรือระคายเคืองได้มากยิ่งขึ้นในช่วงเวลานี้
หลังจากที่เซลล์ผิวบวมน้ำและพองตัวอย่างเฉียบพลันจากฤทธิ์ของสารทำความสะอาด น้ำในเซลล์ก็จะเหยออกจากเซลล์ทำให้เซลล์ผิวสูญเสียน้ำอย่างรวดเร็ว ทำให้ผิวแห้งหลังล้างหน้า โดยจะแห้งมากกว่าก่อนล้างผิว ดังนั้นหากเราใช้สารทำความสะอาดอย่างเดียวเป็นประจำในระยะยาว การใช้น้ำยาทำความสะอาดอย่างต่อเนื่องอาจทำให้เกิดปัญหาผิวแห้ง ผิวถูกทำลาย เกิดผื่นแดง และคัน ส่งผลเสียต่อความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นของผิว
เมื่อเราทราบแล้วว่า สารทำความสะอาดสามารถส่งผลเสียต่อผิวได้อย่างไรบ้าง?
ดังนั้นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวเพื่อลดหรือบรรเทา ข้อเสียของสารทำความสะอาดจึงเป็นสิ่งสำคัญหากเราอยากมีสุขภาพผิวที่ดีและเสื่อมช้า
สำหรับ “วิธีการใช้สารทำความสะอาดให้ถูกวิธี” หรือ “การล้างหน้าให้ถูกวิธี” ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ใดก็ตาม มีหลักการก็คือ
- “ใช้เท่าที่จำเป็นต้องใช้”
- “ใช้เวลาล้างให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น”
“ใช้เท่าที่จำเป็นต้องใช้” หมายถึง หากผิวของเราไม่สกปรก ไม่มัน เช่น หลังตื่นนอนตอนเช้า เราก็ไม่จำเป็นต้องใช้สารทำความสะอาดในการล้างผิว ใช้เพียงแค่ “น้ำเปล่า” อย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว หรือ หากตื่นนอน แล้วผิวมันแค่เพียงบางบริเวณ (เช่น ทีโซน) เราก็สามารถใช้สารทำความสะอาดผิวเฉพาะบริเวณที่ผิวมัน ไม่จำเป็นต้องใช้ทั้งใบหน้า บริเวณอื่นๆที่ผิวไม่มันก็ใช้น้ำเปล่าล้างก็เพียงพอ
“ใช้เวลาล้างให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น” เท่าที่ผิวพอสะอาด อย่าไปล้างนานเกินไป เนื่องจากความสามารถในการกำจัดไขมันสารทำความสะอาด “แปรผันตาม” เวลา ดังนั้น ยิ่งใช้เวลาล้างนาน โอกาสที่โปรตีนและไขมันผิวที่ดีจะกำจัดออกไปด้วยก็ยิ่งเพิ่มขึ้น ปัญหาผิวแห้งก็อาจจะเพิ่มมากขึ้นตามมา
นอกจากนี้ พยายามหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่ทำความสะอาดได้ดีมากเป็นประจำ เช่น พวกคลินซิ่งเช็ดเครื่องสำอางค์ ทั้ง คลินซิ่งวอเทอร์ และคลินซิ่งออยล์ เนื่องจากมีฤทธิ์ในการกำจัดไขมันหรือสิ่งสกปรกออกจากผิวได้ดีมาก จึงมีโอกาสสูงที่จะไปทำลายโปรตีนผิวและไขมันที่เป็นองค์ประกอบผิวเมื่อใช้ต่อเนื่อง ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งหรือ บอบบบางแพ้ง่ายควรหลีกเลี่ยงเป็นอย่างยิ่ง
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ คือ การตัดปัจจัยกระตุ้นการเกิดเหตุปัญหา “ผิวแห้ง” “ผิวลอก” จากการใช้สารทำความสะอาดที่ผิดวิธี (ซึ่งมักจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาผิวแห้งก่อนวัยอันสมควร) เมื่อตัดปัจจัยกระตุ้นการเกิดเหตุแล้ว แนวทางการแก้ปัญหา หรือรักษาปัญหาผิวแห้ง ผิวบอบบางแพ้ง่ายเพิ่มเติม ก็คือ สามารถใช้ Serum และ Moisturizer จาก TAYA ที่จะช่วยเสริมสร้างผิวให้แข็งแรง ชุ่มชื้น ไม่แห้ง ไม่ลอก อีกต่อไป
TAYA – Clarifying Cleanser มีฤทธิ์ในการกำจัดไขมันและสิ่งสกปรกได้ดีระดับปานกลาง สามารถทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยีปั๊มโฟม อ่อนโยนด้วยสารทำความสะอาดเจนเนอร์เรชั่นใหม่อย่างกรดอะมิโนจากธรรมชาติ มีส่วนผสมที่ช่วยรักษาสมดุลความชุ่มชื้นของเซลล์ทั้งในระหว่าง/หลังการล้างหน้า ช่วยลดโอกาสการเกิดสิว ทำให้ผิวดูสุขภาพดีและสวยงาม
ส่วนผสมที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ :
🌿 Artemia Extract สารสกัดจากจากแพลงก์ตอนทะเล ช่วยให้พลังงานแก่เซลล์ผิว.
🌿 Allantoin สารต้านการอักเสบและระคายเคือง.
🌿 Alpha-Bisabolol ช่วยลดอาการบวมแดงจากแดด ลดการอักเสบที่ผิว.
🌿 Methyl Gluceth-10 เป็น moisture ที่ช่วยปกป้องผิวไม่ให้แห้งและดูดซับความชื้น.
🌿 Saccharide Isomerate สารประเภทคาร์โบไฮเดรต เป็นประหนึ่งแม่เหล็กที่สามารถรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนัง.
🌿 Cucumber Extract ช่วยกระชับรูขุมขน ลดความมันบนผิวหน้าได้เป็นอย่างดี.
🌿 Witch Hazel Extract ช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่อุดตันรูขุมขนและความมันส่วนเกิน.
🌿 Centella Asiatica Leaf Extract ช่วยลดรอยหมองคล้ำ รอยด่างดำของผิว รอยแดง รอยแผลเป็นต่างๆ.
🌿 Vitamin B5 (D-Panthenol) ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวหนัง สมานแผลและลดอักเสบ.
🌿 Sodium PCA เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
🌿 Betaine สารสกัดจาก sugar beet ช่วยเพิ่มสมดุลความชุ่มชื้น ป้องกันไม่ให้เซลล์สูญเสียน้ำอย่างรวดเร็วหลังล้างหน้า.
🌿ลองแล้วจะติดใจ ถอนตัวไม่ขึ้นเหมือนลูกค้าประจำของเรานะคะ ☺️.
🚩ขนาด150ml ราคา 920 บาท คุณภาพดี คุ้มค่า คุ้มราคา ใช้ดี ใช้ได้นานม๊ากกๆเลยค่า
TAYA Skincare เพราะผิวสวย…เริ่มต้นด้วย “ชั้นผิวแข็งแรง”
#Taya #TayaSkincare #ครีมผิวแพ้ง่าย #ครีมผิวแข็งแรง #ครีมผิวเป็นสิว #เพราะผิวสวยเริ่มต้นด้วยชั้นผิวแข็งแรง #โฟมล้างหน้า #โฟมล้างหน้าลดสิว #โฟมล้างหน้าผิวแพ้ง่าย
เอกสารอ้างอิง
1. Benson HA. Skin structure, function, and permeation. Topical and Transdermal Drug Delivery: Principles and Practice, 1st ed; Benson, HAE, Watkinson, AC, Eds. 2012:1-22.
2. Ananthapadmanabhan K, Moore DJ, Subramanyan K, Misra M, Meyer F. Cleansing without compromise: the impact of cleansers on the skin barrier and the technology of mild cleansing. Dermatologic therapy. 2004;17:16-25.