ทำความรู้จักกับผิวหนังและองค์ประกอบที่สำคัญ ก่อนจะที่เริ่มดูแลผิว

สิ่งสำคัญอย่างแรกก่อนที่เราจะเริ่มดูแลผิวหนังให้ถูกวิธี

ควรจะต้องทำความรู้จักกับผิวหนังกันก่อน เพื่อที่จะดูแลได้อย่างตรงจุดและถูกวิธี เช่นเดียวกับเวลาจะเอาใจแฟนค่ะ อยากจะเอาใจให้ได้ผลก็ต้องรู้จักและรู้ใจเขาก่อนใช่ไหมค่ะ ฮ่าฮ่า ในส่วนนี้ ปร๋อจึงจะขออธิบายชั้นของผิวหนังและองค์ประกอบที่สำคัญ เพื่อให้ทุกคนสามารถนำความรู้ส่วนนี้ไปใช้เป็นพื้นฐานในการดูแลผิวหนัง และเป็นพื้นฐานในการอ่านทำความเข้าใจในหัวข้อต่อๆไป ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นการง่ายต่อการทำความเข้าใจของผู้อ่านที่มีพื้นฐานความรู้ที่ แตกต่างกัน ปร๋อก็จะพยายามเขียนให้กระชับ เข้าใจง่าย และหลีกเลี่ยงการใช้ภาษาทางวิชาการที่มากเกินไปค่ะ ^^

ชั้นของผิวหนัง (Skin Layers)

ชั้นของผิวหนัง สามารถแบ่งได้เป็น 3 ชั้นหลักๆ ได้ แก่ ชั้นหนังกำพร้า (epidermis), ชั้นหนังแท้ (dermis) และชั้นใต้ผิวหนัง (subcutaneous adipose tissue) 

รูปแสดงชั้นผิวหนังกำพร้าและหนังแท้ ดัดแปลงจาก ปิติ จันทร์วรโชติ และ Zvulunov

1 ชั้นหนังกำพร้า (ผิวชั้นนอก) เป็นชั้นที่อยู่ด้านนอกสุดของผิวหนัง ซึ่งจะสัมผัสโดยตรงกับสิ่งแวดล้อม โดยจะมีความหนาแตกต่างกันออกไปในแต่ละส่วนของร่างกาย เช่น ผิวบริเวณเปลือกตาจะมีความหนาของชั้นหนังกำพร้าประมาณ 0.06 นาโนเมตร น้อยกว่าผิวบริเวณส้นเท้าที่มีความหนาประมาณ 0.8 มิลลิเมตร เราสามารถชั้นหนังกำพร้าออกเป็นชั้นย่อยๆได้ทั้งหมด 4 ชั้น  ได้แก่ 

    1. Stratum corneum
    2. Stratum granulosum
    3. Stratum spinosum 
    4. Stratum basal

ชั้น Stratum corneum จะเป็นชั้นที่อยู่ด้านนอกสุด ส่วนชั้น Stratum basal เป็นชั้นในสุดติดกับชั้นหนังแท้ โดยจะมี เยื่อ basement membrain กั้นระหว่างชั้นหนังกำพร้าและชั้นหนังแท้ 

เซลล์เคราติโนซัยต์ (keratinocytes) เป็นเซลล์ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในชั้นหนังกำพร้า โดยเซลล์เคราติโนซัยต์ จะถูกสร้างขึ้นในชั้น Stratum basal จากนั้นเซลล์เคราติโนซัยต์ จะเปลี่ยนรูปร่างและเคลื่อนที่ไปสู่ผิวหนังด้านบนเรื่อยๆ จนถึงชั้น Stratum corneum ซึ่งจะกลายเป็นเซลล์แบนๆ ไม่มีชีวิต ไม่มีนิวเคลียสและไซโทพลาสซึมอยู่ภายในเซลล์ มีโปรตีนคีราติน เป็นองค์ประกอบหลักของเซลล์ เรียกเซลล์นี้ว่า เซลล์คอร์นิโอซัยต์ (corneocytes) จากนั้น เซลล์คอร์นิโอซัยต์ จะค่อยๆลอกออกและหลุดไป … อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว งง ไหมค่ะ? 555 สรุปก็คือ เซลล์คอร์นิโอซัยต์ คือเซลล์เคราติโนซัยต์ที่ไม่มีชีวิตแล้วนั้นเองค่ะ

ในวัยหนุ่มสาวที่ผิวมีความสมบูรณ์ เซลล์เคราติโนซัยต์จะใช้เวลาในการเคลื่อนที่จากชั้น Stratum basal ถึง Stratum corneum ประมาณ 14 วัน และใช้เวลาอีกประมาณ 14 วัน รวมแล้วประมาณ 28 วัน ตั้งแต่เริ่มสร้างเซลล์จนถึงเซลล์ผลัดออกไป แต่ผิวคนแก่ (elderly skin) จะใช้เวลาในการผลัดเซลล์ผิว 40-60 วัน ซึ่งมากกว่าผิววัยหนุ่มสาว การผลัดเซลล์ผิวที่ช้าลงนี้ส่งผลเสียต่อการทำงานของชั้นปกป้องผิว (skin barrier) โดยทำให้ผิวหนังบางลง, ผิวมีความโปร่งแสง, ผิวหยาบ, ผิวเป็นขรุย และผิวแห้ง 

 ชั้นปกป้องผิวนี้ จะหมายถึง ผิวชั้นนอกสุด ที่ประกอบไปด้วย 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ เซลล์ผิวที่ตายและไขมันที่เชื่อมระหว่างเซลล์ผิว (skin fat) ให้ยึดติดกัน เปรียบเหมือนกับลักษณะของอิฐบล็อคที่ถูกเชื่อมติดกันด้วยปูน ซึ่งทำหน้าที่เป็นเหมือนเกราะป้องกันและกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวเป็นชั้นแรกให้แก่ผิวหนังชั้นต่างๆที่อยู่ถัดลงมา ดังนั้น หากชั้นปกป้องผิวนี้มีความสมบูรณ์ ก็จะทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น และมีความสามารถป้องกันเชื้อโรคและสารเคมีต่างๆได้ดี 

ทั้งนี้ skin fat นี้ ประกอบไปด้วยสาร ceramides, cholesterol, free fatty acids, cholesterol sulfate – cholesterol esters ในสัดส่วนของน้ำหนักโดยประมาณ 50 : 25 :12 : 11 โดยสาร ceramide 1 เป็นสารที่มีบทบาทสำคัญที่จะช่วยทำให้ชั้นปกป้องผิวแข็งแรง  

รูปแสดงชั้นผิวหนังชั้นนอกที่มีลักษณะคล้ายอิฐบล็อคที่ถูกเชื่อมติดกันด้วยปูน จึงทำหน้าที่เป็นเหมือนเกราะป้องกันให้กับผิว 

1. ชั้นหนังแท้ (ผิวชั้นใน) ผิวหนังชั้นนี้มีความหนามากกว่าผิวชั้นหนังกำพร้า โดยมีความหนาประมาณ 2-5 มิลลิเมตร มีเส้นใยคอลลาเจน และเส้นใยอีลาสติน เป็นองค์ประกอบสำคัญ ซึ่งมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการคงรูปร่างและความยืดหยุ่นของผิวหนัง เส้นใยทั้งสองถูกสร้างขึ้นโดยเซลล์ไฟโบรบลาส (Fibroblast) ซึ่งเป็นเซลล์ที่กระจายตัว อยู่ในชั้นหนังแท้ เมื่ออายุเพิ่มขึ้นปริมาณเส้นใยคอลลาเจน และเส้นใยอีลาสตินจะลดลง ซึ่งจะเป็นสาเหตุให้เกิดริ้วรอยและความยืดหยุ่น 

2. ชั้นใต้ผิวหนัง เป็นชั้นที่อยู่ลึกสุดของชั้นผิวหนัง ช่วยทำให้ผิวหนังต่อเชื่อมกับอวัยวะส่วนล่าง เช่น กล้ามเนื้อ กระดูก เป็นต้น เป็นแหล่งเก็บสะสมไขมันเพื่อใช้ในภาวะขาดพลังงานและควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย

เป็นอย่างไรบ้างค้า อ่านมาถึงตรงนี้แล้วพอเห็นภาพเข้าใจโครงสร้างผิวกันไหม บางทีก็ตัดสินใจไม่ถูก หากเขียนสั้นเกินไปก็กลัวผู้อ่านจะไม่ได้ความรู้ หากเขียนยาวเกินก็กลัวผู้อ่านเบื่อกันค่ะ ^^’ เอาเป็นว่าถ้าอ่านแล้วา งง ก็ไม่ต้องจำอะไรมาก เพราะปร๋อสรุปหน้าที่สำคัญของผิวแต่ละชั้นมาเป็นแผนภาพตามรูปด้านล่างนี้เลยค่ะ ^^

แผนภาพแสดงบทบาทที่สำคัญของผิวหนังแต่ละชั้น

เมื่อเรารู้จักบทบาทหน้าที่ของผิวแต่ละชั้นแล้ว หากมีปัญหาผิวเกิดขึ้น เราก็จะพอวิเคราะห์ได้แล้วนะคะว่าควรจะเน้นการบำรุงไปที่ผิวชั้นไหนดี เพื่อที่จะแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดค่ะ^^ อ่อ…แต่ขอฝากเอาไว้นิดนึงค่ะว่า การทาครีมเพื่อให้ส่วนผสมลงไปถึงผิวชั้นในนั้น เป็นเรื่องค่อนข้างยากและมีข้อจำกัดมากๆ เพราะผิวชั้นนอกยิ่งแข็งแรงเท่าไร ก็จะทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันการซึมผ่านของสารต่างๆได้ดีมากขึ้น ที่ผ่านมาเลยมีการคิดค้นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีคุณสมบัติ นาโนอิมัลชั่น หรือไมโครอิมัลชั่นขึ้นมาเพื่อนำส่งสารสำคัญต่างๆให้ซึบซาบสู่ผิวชั้นใน แต่การใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีข้อควรระวังมากๆเรื่องของการระคายเคืองผิว ซึ่งโดยส่วนตัวปร๋อไม่แนะนำสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายค่ะ ดังนั้น เราในฐานะของผู้บริโภคก่อนที่จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆ จึงควรศึกษาทั้งผลดีและผลเสียที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อที่จะได้ลดความเสี่ยงการเกิดปัญหาผิวต่างๆตามมาในอนาคตค่ะ ^^

เอกสารอ้างอิง:

  1. วราภรณ์ สุวกูล. เครื่องสำอางในชีวิตประจำวัน : การดูแลรักษาผิวหนัง. พิมพ์ครั้งที่8. กรุงเทพมหานคร : ภาควิชาเภสัชกรรมและเภสัชอุตสาหกรรม คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2559.   
  2. ปิติ จันทร์วรโชติ. ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับผิวหนังและเส้นผม. พิมพ์ครั้งแรก. กรุงเทพมหานคร : นานะภงค์, 2555.
  3.  Benson, H.A. and A.C. Watkinson, Topical and transdermal drug delivery: Principles and practice. 2012: John Wiley & Sons.  
  4. McCullough, J.L. and K.M. Kelly, Prevention and Treatment of Skin Aging. Annals of the New York Academy of Sciences, 2006. 1067(1): p. 323-331.
  5. Menon, G.K., New insights into skin structure: scratching the surface. Advanced Drug Delivery Reviews, 2002. 54, Supplement: p. S3-S17.
  6. Zvulunov, A., Acne, in Handbook of Cosmetic Skin Care. 2009, CRC Press. p. 58-76.

🔹TAYA ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเพื่อแข็งแรงไม่บอบบางแพ้ง่าย เน้นการสร้างผิวแข็งแรงทั้งผิวชั้นในและชั้นนอก ด้วยการใส่สารสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการสร้างองค์ประกอบผิว และป้องกันความเสื่อมผิวที่ได้รับรางวัลนวัตกรรมยอดเยี่ยม “รางวัลเหรียญทอง” ในระดับนานาชาติ

🔹 ทุกผลิตภัณฑ์ของ TAYA ไม่มี แอลกอฮอลล์ สี น้ำหอม ซิลิโคน พาราเบน ไม่มีสารต้องห้ามสำหรับ “เด็ก” หรือ “สตรีมีครรภ์” ผ่านการทดสอบทางคลินิคโดยแพทย์ผิวหนังแล้วว่าอ่อนโยน แม้ผิวบอบบางแพ้ง่าย มีทั้งหมด 3 อย่างค่ะ

🔹 TAYA Clarifying Cleanser โฟมทำความสะอาด ลดโอกาสการเกิดสิวได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย เราใช้สารทำความสะอาด จากกรดอะมิโนที่ได้จากธรรมชาติ จึงอ่อนโยนและทำความสะอาดได้เร็วมากๆ พร้อมทั้งยังมีสารที่ช่วยปรับสมดุลความชุ่มชื้นผิว จึงไม่ทำให้ผิวแห้งหลังล้างหน้า 150ml 920บาท

🔹 TAYA Intensive Anti-Aging Serum เซรั่มที่จะช่วยชะลอและฟื้นฟูความแก่ผิวแบบองค์รวม โดยเน้นใส่ส่วนผสมกระตุ้นการสร้างองค์ประกอบผิวชั้นใน ช่วยแก้ปัญหา ริ้วรอย/ ฝ้า-กระ/ รอยดำ-รอยแดง/ สิวผด-สิวอักเสบ/ รูขุมขนกว้าง/ ผิวขาดความเรียบเนียนสดใส/ ป้องกันแสงสีฟ้าจากอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ที่เราต้องเผชิญกันทุกวัน อุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระหลากหลายชนิดโดยเฉพาะ “ฟูลเลอรีน” จากธรรมชาติที่มีฤทธิ์ “เหนือกว่า” แอสต้าแซนทิน และ “สูงกว่า” วิตามินซี 250 เท่า ขนาด 40 ml ราคา 2,750 บาท

🔹 TAYA Intensive Moisturizing Cream มอยส์เจอไรเซอร์ที่เน้นใส่ส่วนผสมที่ช่วยสมานผิวและเพิ่มความแข็งแรงของผิวชั้นนอก โดดเด่นด้วยสาร Madecassoside และ Asiaticoside จากธรรมชาติ มีฤทธิ์เป็นที่ยอมรับในทางเภสัชกรรมในด้านสมานผิวและลดการอักเสบ โดย TAYA เลือกใช้เกรดที่มีความบริสุทธิ์และความเข้มข้นสูงมาใส่ นอกจากนี้มอยส์เจอไรเซอร์ยังเป็น Eyes Cream ในตัว ด้วยส่วนผสมที่ช่วยลดความเครียดผิว รอยบวมคล้ำและริ้วรอยใต้ตา ขนาด 40 ml ราคา 2,350 บาท.

“เพราะเทคโนโลยี ก้าวหน้าตลอดเวลา TAYA จึงไม่เคยหยุดพัฒนา”

“ TAYA เราคือตัวจริงด้านคุณภาพ “

📍สนใจสั่งซื้อสินค้า/สอบถามข้อมูลเพิ่มเติ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง

TAYA-Intensive Anti-Aging Serum

ที่สุด! ของเซรั่มชะลอความแก่ผิว ลดฝ้า กระ ผิวหมองคล้ำ ริ้วรอย ผสาน “สุดยอด” ส่วนผสมชั้นเลิศ เข้ากับเทคโนโลยีนำส่งระดับ “นาโนสเฟียร์”สูตรเฉพาะจาก TAYA

TAYA-Intensive Moisturizing Cream

มอยส์เจอไรเซอร์เพื่อผิวแข็งแรง ที่มีคุณสมบัติเป็น Eye Cream ในขวดเดียวกัน อัดแน่นด้วย “สุดยอด” ส่วนผสมเพื่อผิวแข็งแรง

TAYA-Clarifying
Cleanser

ขั้นตอนแรกเพื่อ”ผิวสุขภาพดี” ด้วยวิปโฟมเนื้อนุ่มอ่อนโยนจากกรดอะมิโน พร้อมคุณสมบัติช่วยเพิ่มสมดุลความชุ่มชื้นของผิวหลังล้างหน้า ลดการเกิดสิว